วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562

พันธสัญญาสีดำ ตอนที่ 4 มรดกที่ถูกลืม

ซากุระรู้สึกตัวว่าไม่ได้อยู่บนห้องบนรถไฟแต่กำลังนอนอยู่บนสถานที่แห่งหนึ่งที่ดูแห้งแล้งและอ้างว้าง ลมเย็นได้พัดมากระทบกาย
ตอนนี้เธอก็พบว่าตัวเองสวมเพียงชุดกระโปรงสีขาวเนื้อบางๆยาวกรอมเท้า"ที่นี่คือที่ไหนล่ะเนี่ย"
ไม่ทันขาดคำ เหล่าอีกาไปบินผ่านตัดหน้าทำให้เธอต้องเอามือมาป้องกันไป
"หึ หึๆแม่หนูน้อยตอนนี้เวลาชีวิตของเธอมันเหลือน้อยเต็มทีแล้ว ถ้าเวลาของเธอจะหมดเมื่อไหร่เธอต้องเริ่มทำตามสัญญา...สัญญา"เสียงแหบห้าวของบุคคลปริศนาดังขึ้น 
หญิงสาวพยายามหาที่มาของเสียงพลางตะโกนถาม"เดี๋ยวสัญญานั่นมันคืออะไร ขอร้องล่ะบอกฉันทีเถอะ"แต่สิ่งที่เธอได้รับหาใช่คำตอบ แต่เป็นเสียงหัวเราะอย่างสาแก่ใจที่ดังลั่นจนเธอต้องเอามือมาปิดหู ร่างบางหันหลังวิ่งหนีทันทีเเต่วิ่งเท่าไหร่ก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะอันน่าสะอิดสะเอียนอยู่ดี เสียงแบบนี้มันไม่ต่างจากปีศาจร้ายที่ผุดมากจากขุมนรก โอ๊ย นี่เธออยู่ในหนังสยองขวัญป่วนจิตยังไงยังงั้น
หยุดๆๆๆหยุดสักที!ใครก็ได้ ช่วยด้วย!
"เฮือก!"
นินจาสาวรู้สึกตัวก็พบว่าเหงื่อท่วมหน้า ตอนนี้ยังอยู่บนตู้รถไฟ
ตาสีมรกตมองไปยังนอกหน้าต่างเห็นบรรยากาศรอบนอกปกคลุมด้วยหิมะจึงได้รู้ว่าตอนนี้เข้าสู่แคว้นยูกิแล้ว เธอมองเวลาอีกยี่สิบนาทีก็ถึงสถานีแล้ว คงต้องเตรียมตัวให้พร้อมสินะ
...
ทางด้านทีมเหยี่ยว
ตอนนี้ทีมเหยี่ยวต้องไล่ตามเป้าหมายโดยเดินทางเท้าซึ่งกินเวลาตั้งห้าวันเพราะหากพวกเขาขึ้นรถไฟทีมีหวังพวกโคโนฮะแห่มาแน่ ก็นะ ชื่อหล้าในบิงโกบุ๊คเลยนี่
คารินบ่นอุบ"ถ้าจับยัยนั่นได้พวกเราไม่ต้องมาเดินทางเหนื่อยอย่างนี้หรอก"
ซุยเงสึอดไม่ได้ที่จะแขวะใส่"หึ บ่นมากจริงจริ๊ง เดี๋ยวก็แก่ไวหรอก"
ทั้งซายะและและจูโกะต่างขำมีเพียงซาสึเกะและโทบิยังนิ่งเฉย คารินหน้าบึ้งตึงกว่าเดิม
ซุยเงสึพูดต่อ"ที่แคว้นยูกิเห็นว่าสวยมากมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะงานนี้ถ้าจะได้เที่ยวด้วยล่ะมั้งเนี่ย"
ซายะออกความเห็น"แต่แคว้นนี้ขึ้นชื่อเรื่องการตรวจคนเข้าเมืองมาก เพราะเข้มงวดที่สุดในแถบนี้ต้องระวังหน่อยล่ะ"
โทบิหันมาถามซาสึเกะ"เราต้องเร่งเดินทางทั้งวันทั้งคืนเร็วสุดก็สามวัน ไหวไหม"
"ตกลงตามนั้น"พอซาสึเกะตกลงอย่างนั้นทำเอาลูกทีมคนอื่นยกเว้นจูโกะหน้าถอดสีทันที
ซุยเงสึบ่น"กว่าจะถึงแคว้นยูกิ มีหวังพวกเราจะตายก่อนแน่ ซาสึเกะ"
จูโกะคิดในใจ...ความหึงขึ้นสูงเลยแฮะ...
...
ทางด้านกลุ่มโคโนฮะ
ตอนนี้ได้เข้าสู่แคว้นยูกิแล้วทุกคนต้องสวมเสื้อกันหนาวทันทีเพราะอากาศหนาวมาก ฮารุยสังเกตุเห็นว่าหน้าของหลานสาวนั้นซีดมากจึงได้ถาม"ซากุระ แกเป็นอะไรรึเปล่าหน้าซีดเชียวไม่สบายตรงไหนรึ"
เด็กสาวส่ายหน้า"ไม่เป็นไรค่ะป้า หนูสบายดีก็แค่เมารถน่ะค่ะ"
ผู้เป็นป้าลูบหัวหลานสาวอย่างเอ็นดู"ระวังบ้างสิ"
"ฮารุยซางงงง"เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังมาแต่ไกล
"นั่นใครน่ะ"นารุโตะชี้ไปที่ชายคนหนึ่งในชุดเสื้อหนาวราคาแพงคู่กับบู๊ทสุดเท่วิ่งตรงมา เขาเป็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผมสีเลือดหมูยาวละต้นคอจัดทรงอย่างดีดวงหน้านั้นคมเข้มตาสีฟ้าผิวขาวจัดตามแบบคนแคว้นทางเหนือ เค้าตรงมาสำรวจเด็กสาวผมสีลูกกวาด"ซากุระเหรอโตขึ้นเยอะนะหลานนะ"เขาสวมกอดเด็กสาวทันที"นับวันยิ่งสวยเหมือนแม่นะ"
"ค่ะลุง"คำว่าลุงนั้นทำเอาทุกคนในคณะเดินทางช็อคยกเว้นฮารุย และที่ช็อคยิ่งกว่าคือคนที่ถูกเรียกว่าลุงนั่นเอง
"นี่หนังหน้าฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้นนะ"ผู้เป็นลุงโต้กลับ
ซากุระพูดเสียงเรียบ"ลุงก็ลุงน่ะอายุครึ่งร้อยแล้วนะค่ะมีลูกสองแล้วด้วย"
อิโนะถามเสียงสั่น"คะ..คนคนนี้เป็นลุงเธอเหรอซากุระ"
"ใช่"คำตอบสั้นๆง่ายๆได้ใจความ
คนเป็นลุงรีบยืดอกและแนะนำตัว"ขอแนะนำตัวนะครับ ผม นานาเซะ ซากุราบะ ครับ"
หลังจากที่แนะนำตัวเสร็จ ซากุราบะก็นำทางไปคฤหาส์ตระกูลนานาเซะที่อยู่ไม่ไกล
ทั้งหมดถูกพามาที่คฤหาส์หลังใหญ่สไตล์ญี่ปุ่นมีอาณาเขตกว้างขวางดูสวยงาม
พ่อบ้านวัยชราเดินออกมาต้อนรับ"สวัสดีครับทุกคน มาครับ เดี๋ยวพวกกระผมช่วยถือของ"หากแต่ลี นินจาคิ้วเหลี่ยมกลับไม่ยอม"เดี๋ยวผมถือเองครับ"ว่าแล้วนินจาหนุ่มก็จัดการแบกกระเป๋าของทุกคนตามไป คุณพ่อบ้านหันมาบอก"อ้อ คุณผู้ชายกำลังรอคุณหนูอยู่นะครับ"พอกล่าวจบพ่อบ้านชราก็เดินนำนินจาคิ้วเหลี่ยมเข้าไปในคฤหาสน์
"ไปเถอะเด็กๆ"ซากุราบะเดินนำทุกคนเข้าไป
นานาเซะ คาสึอิ หัวหน้าตระกูลนานาเซะอายุเจ็ดสิบกว่าปีในชุดยูกาตะสีแดงเลือดหมูเข้ากับสีผมแดงเพลิงถึงแม้จะมีสีขาวแซมใบหน้านั้นเหี่ยวย่นตามวัย แต่ตาสีฟ้านั้นสดใสฉายแววดีใจ ใบหน้านั้นยิ้มกว้างเมื่อเห็นหลานสาวคนเดียวเดินทางมา
"สวัสดีค่ะท่านตา"ซากุระโค้งศีรษะเคารพผู้อาวุโสทันทีเช่นเดียวกับคนอื่น
"โอ้ หลานรักไม่ได้กันซะนาน โตขึ้นเยอะเลยนะหลาน สวยเหมือนแม่จริงๆ"ผู้เป็นตาออกปากชมหลานสาวคนสวยด้วยสีหน้าปิติยินดีพลางเอื้อมมือลูบหัวของหลานสาวคนเดียวของตระกูล"ยิ่งเห็นหน้าหนูทำให้ตานึกถึงซากุโระและฮารุชิถ้าทั้งสองคนยังอยู่คงจะภูมิใจในตัวหลานนะ แล้วนี่จะมาอยู่สักกี่วันล่ะ มาอยู่นานๆก็ได้ตาไม่ว่าหรอกนะตาความจริงตาอยากให้หลานมาอยู่กับตานานๆ"
เด็กสาวพยักก่อนจะตอบ"หนูกะจะอยู่สักพักค่ะ ท่านตา"
นานาเซะ มิโรกุ หญิงชราวัยหกสิบห้าในชุดกิโมโนสีเขียวไข่กาผมยาวสีน้ำตาลอ่อนแซมขาวม้วนเป็นม้วยต่ำในหน้าเหี่ยวย่นตามวัยหากแต่ตาสีฟ้าคมงามนั้นแฝงไว้ด้วยความเมตตาเธอเอ่ยกับหลานสาว"ความจริงยายอยากให้หลานเลิกเป็นนินจาเเล้วมาอยู่ที่นี่นะ"
คนอื่นๆนั้นรู้สึกเป็นส่วนเกินในทันที ฮารุยเอ่ยแทรก"ขออนุญาติพาซากุระไปหามาสะซังนะค่ะ ตอนนี้เขาคงจะว่างแล้ว"
"ก็ดีนะ"คาสึอิเห็นด้วย"รู้สึกว่ายัยหนูไม่ค่อยสบาย ผอมและผิวซีดไปหน่อย ไปหามาสะให้เขาจัดยาบำรุงให้ยัยหนูบ้างก็ดี ไม่เคยไปเจอเลยสักครั้งนี่นา ตอนนี้เค้าอยู่ที่คฤหาสน์แล้ว"
ฮารุยโค้งรับแล้วจูงมือหลานสาวออกไป โดยมีกาอาระและคาคาชิตามไปด้วย คาสึอิหันมาบอก"พาเธอก็ไปพักก่อนเถอะ ไม่ต้องห่วงหรอกที่นี่แคว้นยูกิ ที่นี่เขาตรวจตราคนอย่างเข้มงวดนะ"
ฮินาตะจึงถาม"คนตระกูลนานาเซะเนี่ยมีเอกลักษณ์เด่นนะค่ะ"
ซากุราบะพยักหน้าก่อนจะอธิบาย"ใช่ จุดเด่นของตระกูลเราคือสีผมชมพูเข้มเหมือนเลือดหมู หรือไม่ก็แดงเพลิงแบบนี้แหละ และอีกอย่างก็คือตาสีฟ้า ผิวขาว ถ้าเป็นของฮารุโนะก็จะเป็นผมสีดำตาสีเขียวมรกต ผิวขาวซีด ซากุระก็เหมือนตัวแทนของสองตระกูลที่มีตาสีเขียวมรกตผมสีชมพู ผิวขาวอมชมพูใส เอาเถอะพวกเธอไปพักก่อนสักพักเดี๋ยวฉันจะให้ลูกชายเป็นไกด์ทัวร์เอง"
นินจาโคโนฮะทุกคนต่างร้องเย้ทันทีและยอมไปห้องพักที่เตรียมไว้ให้
ทางด้านซากุระ
ตอนนี้สองป้าหลานและนินจาสองหนุ่มกำลังเดินทางไปยังร้านยาสมุนไพรของแคว้นยูกิทั้งสี่ไม่ได้พูดอะไรเลยตลอดทาง
สองข้างทางแคว้นยูกิเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆมากมาย มีนักท่องเที่ยวกำลังจับจ่ายซื้อของ ถึงแม้อากาศจะหนาวเย็นแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใด แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนน่ะรึ? หนาวจนไม่อาจอยู่ได้เลย
กว่าจะผ่าฝูงชนมาได้ก็เล่นเอาเหนื่อยในที่สุดทั้งสี่ก็มาถึงที่หมายร้านยาสมุนไพรแคว้นยูกิเป็นร้านยาที่มีสมุนไพรส่งออกนอกแคว้นจำนวนมาก ร้านนี้มีมาสะเป็นเจ้าของอยู่คนเดียวร้านจึงมีสองชั้นสำหรับทำบ้านพักส่วนตัวและสวนเพาะสมุนไพร พอมาถึงก็มีหญิงสาวคนหนึ่งในชุดกิโมโนสีชมพูหวานออกมาต้อนรับ"สวัสดีค่ะไม่ทราบว่าพวกคุณมีธุระอะไรรึค่ะ"
"เราต้องการพบมาสะซังจ้ะ"ฮารุยตอบ
หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะผายมือเชิญ"เข้าไปนั่งพักก่อนค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะเรียนท่านมาสะให้"
ทั้งหมดเดินตามหญิงสาวไปจนถึงห้องรับรองก่อนจะลงมือจุดเตาผิงราคาแพงเพื่อสร้างความอบอุ่นให้แขก จากนั้นหญิงสาวก็แยกไป
ไม่นานก็มีสาวใช้นำขนมและน้ำขิงร้อนๆมาเสิร์ฟ
ทั้งสี่กำลังนั่งรอมาสะอยู่นานพอสมควร หญิงสาวคนเดิมก็ออกมา"ท่านมาสะ ต้องการพบแค่คุณฮารุโนะ ซากุระค่ะ เชิญ"
ฮารุยงุนงง ว่าท่านมาสะรู้ชื่อหลานสาวตนได้เช่นไรก่อนจะนึกได้ว่า พ่อตาของน้องชายคงจะพูดให้ฟังกระมังเพราะที่ผ่านมา เธอพาหลานมาที่แคว้นนี้ทีไรก็ไม่เคยได้พบมาสะเลยสักครั้ง ด้วยมาสะต้องไปติดต่องานนอกแคว้นตลอด
ซากุระยอมเดินตามไป กาอาระมองไปที่หญิงสาวด้วยความเป็นห่วง คาคาชิร้องถาม"ท่านมาสะนี่เป็นใครกันครับ ฮารุยซัง"
ฮารุยตอบเสียงเรียบ"คนรู้จักของครอบครัวน่ะ คาคาชิ เค้าคอยช่วยเหลือน้องชายในช่วงหนึ่งน่ะ"
คาคาชิพยักหน้า"ครับ"
ทางด้านซากุระที่เดินตามหญิงสาวกิโมโนไปถึงหน้าห้อง ห้องหนึ่งที่มีแสงไฟสลัวๆ หญิงสาวผายมือเชิญ"เชิญค่ะ"
ซากุระเปิดประตูเข้าไป "นั่งสินังหนู" ชายวัยกลางคนในชุดยูกาตะสีดำสวบผ้าคลุมสีเขียวไข่กาทับเส้นผมนั้นเป็นสีดอกเลาบอกใบหน้านั้นแฝงไปด้วยความอารี
ซากุระนั่งลงบนเบาะตรงข้ามกับมาสะ มาสะเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม"เห็นหนูแล้วนึกถึงฮารุชิคุงจริงๆนะ ตอนแรกฉันคิดว่าเขาจะมีลูกชายแต่ที่ไหนได้มีลูกสาว ชั้นจินตนาการมาตลอดว่าเธอมีหน้าตาเช่นไร"
"แล้วท่านคิดว่าหนูมีหน้าตาเช่นไร"
"งดงาม แต่พอมามองเจ้าแล้ว งดงามกว่าที่คิดแถมยังเป็นหญิงสาวที่สวยงามราวกับตุ๊กตา รอยยิ้มหรือก็เหมือนแม่ แม่ของเจ้าเป็นคนสวย สวยมากถึงกับทำให้พ่อเจ้ามอบใจให้เลยเชียว"
เด็กสาวยิ้มบางๆก่อนจะถาม"หนูอยากรู้ว่าพ่อกับแม่หนูรักกันได้ยังไง ท่านพอจะทราบไหม"
มาสะหัวเราะเบาๆ"ได้ หนูน้อยแต่มีบางอย่างที่ฉันจะต้องให้หนู"มาสะเอื้อมไปเปิดลิ้นชักแล้วหยิบคัมภีร์ม้วนหนึ่งส่งให้เด็กสาว"พ่อของหนูฝากไว้ก่อนตายเขาเดินทางมาฝากฉันไว้บอกว่าถ้าลูกของเขาเกิดมาแล้วเดินทางมาหาฉันเมื่อไหร่ให้ส่งให้ถึงมือของหนูเท่านั้น"
ซากุระรับม้วนคัมภีร์มายังไม่เปิดอ่านในทันทีแล้วโค้งศีรษะขอบคุณ"ขอบคุณมากค่ะที่มาสะซังกรุณา"
ชายสูงวัยส่ายหน้า"ไม่เลย ฮารุชิก็เหมือนลูกหลานของฉันนั่นแหละนะ และนี่ก็เป็นมรดกเพียงหนึ่งเดียวของเค้า ขอส่งต่อให้เธอล่ะ...อืม... เขารักกับแม่ของหนูได้ยังไงเหรอ...ขอฉันนึกดูก่อนนะเรื่องมันก็นานพอดูเชียว"ชายสูงวัยยกชาสมุนไพรขึ้นจิบแล้วจึงเริ่มเล่า"เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ฮารุชิเดินทางมาหาฉัน เขาบอกว่าจะขอหลบพักใจที่นี่สักพัก ตัวฉันเองก็ไม่ได้ว่าอะไรดีเสียอีกที่มีแพทย์เก่งๆมาช่วยงาน ขนาดไม่ใช้วิชานินจาเขาก็เก่งมากแล้วฝีมือการปรุงยาเรียกว่าหมอเทวดา ในตอนนั้นฉันสนิทกับตาของหนูพอสมควร เขามักจะมาปรับทุกข์กับฉันเสมอๆเรื่องแม่ของหนู  ซากุโระที่มีร่างกายอ่อนแอมาเเต่เล็กๆแต่ก็เป็นคนสวยที่คนหลายแคว้นที่ได้เห็นก็ต้องหลงรักเธอเหมือนเจ้าหญิงในเทพนิยาย น่ารักเหมือนตุ๊กตา พอฮารุชิมา ฉันเลยแนะให้ฮารุชิลองไปรักษาดู ผลปรากฏว่าพ่อของหนูหลงรักแม่ของหนูจนถอนตัวไม่ขึ้นเพราะครั้งแรกที่เจอกันนั้นทั้งคู่หน้าแดงทันทีเลยเชียว เพราะฮารุชิเองรูปร่างหน้าตาหล่อเหลามากเดินไปไหนสาวๆก็ต้องเหลียวมองทุกที หลังจากที่พ่อหนูไปรักษาแม่หนูบ่อยๆนั้นดอกรักก็ผลิบานขึ้นตามลำดับ ตาของหนูอาบน้ำร้อนมาก่อน เค้าวางแผนจะส่งแม่ของหนูไปแต่งงานกับคนที่อื่น ฮารุชิรู้ก็จัดการวางยาบ้านนานาเซะทั้งบ้านแล้วชวนซากุโระหนีตามกันไป ตอนนั้นฉันเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรและเกือบจะมีเรื่องแต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดีน่ะนะ"
ซากุระอมยิ้มน้อยๆไม่นึกว่าพ่อของเธอจะใจร้อนมากถึงขนาดเล่นฉุดกันเลย
มาสะเอ่ยขึ้น"เดี๋ยวฉันเขียนใบสั่งยาบำรุงร่างกายให้หนูนะ ตาของหนูโทรศัพท์มาบอกฉันแล้ว"
เด็กสาวโค้งขอบคุณอีกครั้ง
หลังจากนั้นทั้งสี่ก็เดินทางกลับหากแต่ยัยตัวแสบก็ดันอยากจะไปเที่ยวแต่ผู้เป็นป้าไม่ยอม เด็กสาวจึงอาศัยช่วงที่เดินผ่าคนที่แออัดนั้นหลบไปทันที ฮารุยนั้นอดไม่ได้ที่จะชกกำแพงระบายอารมณ์ พอกาอาระอาสาจะตามตัวมาให้แต่ฮารุยส่ายหน้าแล้วบอก"มันก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กแล้วล่ะค่ะ ช่างเถอะ "
ระหว่างทาง
ฮารุยหันมาคุยกับคาคาชิที่เดินอ่านหนังสืออยู่นั้น ส่วนกาอาระก็กำลังดูของฝาก 
"คาคาชิมีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากจะให้เธอรู้ซักหน่อยนะ"
"ครับ ผมฟังอยู่"
ฮารุยเริ่มเล่า"เธอรู้มั้ยว่าทำไมน้องชายฉันถึงอัปเปหิตนออกมาจากหมู่บ้าน"
"ไม่ใช่เพราะโดนกดดัน..."
 หญิงสาวส่ายหน้า"ไม่...สาเหตุที่แท้จริงน่ะ เขาเสียใจที่รินตายไปต่างหากล่ะ ฉันขอฝากเด็กคนนั้นด้วยนะ คาคาชิ"
เนตรวงแหวนคาคาชิมีสีหน้าสลดลงแล้วรับคำ"ครับฮารุยซัง ผมจะดูแลเด็กคนนั้นเอง"
ทางด้านซากุระนั้น
เด็กสาวเดินเล่นไปเรื่อยตามประสา กลิ่นนมหอมๆโชยมาเด็กสาวเดินตามไปจนถึงที่มาของกลิ่นนั้นมาจากคาเฟ่เล็กๆที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย
ชายเจ้าของร้านร่างใหญ่เชื้อเชิญ "เชิญนั่งก่อนสิคุณหนู"
เด็กสาวเดินเข้าไปตามคำเชิญ เธอนั่งลงที่เก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์ แล้วสั่ง"ขอโกโก้ร้อนหนึ่งที่"
เจ้าของร้านส่ายหน้า"หนาวๆอย่างนี้คุณหนูควรจะสั่งนมอุ่นๆกินคู่กับคุ้กกี้สิครับ"
เมื่อเจ้าร้านแนะนำอย่างนี้มีหรือเด็กสาวจะปฏิเสธ"ก็ได้ค่ะ ขอนมอุ่นและคุ้กกี้"
สักพักนมอุ่นๆและคุ้กกี้ก็มาเสริฟ์ ซากุระลองจิบนมดู"หอมหวานจัง รสนุ่มมาก"
ชายคนนั้นหัวเราะเบาๆ"นับว่าหนูโชคดีนะ รู้มั้ยเวลาน่ะไม่เคยหยุดนิ่งหรอกนะ เวลาของหนูน่ะมันเหลือน้อยแล้ว"
ซากุระมองหน้าของเจ้าของร้านอีกทีก็พบว่าตอนนี้เธอยืนอยู่ตรงซอกตึกก็เท่านั้น เด็กสาวแตะที่ริมฝีปากตน"รสนม ยังอยู่แหะ เรื่องแปลกๆมาหาเราตลอดเลย"
พอกลับมาถึงบ้านเธอก็โดนผู้เป็นป้าเอ็ดชุดใหญ่ซึ่งเธอทำได้แต่นั่งฟังอย่างเงียบๆเท่านั้น
หลังจากที่โดนเอ็ดเรียบร้อยแล้วเธอเข้าห้องแล้วปิดประตูอย่างมิดชิดหยิบคัมภีร์ที่มาสะซังมอบให้เธอคลี่คัมภีร์ออกมาภายในนั้นว่างเปล่ามีเพียงรูปมือที่ถูกวาดไว้เท่านั้น เด็กสาวถอดถุงมือข้างหนึ่งแล้วเอามือมาวางทับบกับรููป'บุ้ง'ควันขาวพุ่งมาดาบคาตานะคู่หล่นออกมาใส่มือเด็กสาวอย่างเหมาะเจาะ เธอเดาได้เลยว่านี่ต้องเป็นดาบของพ่อแน่ๆเธอชักดาบออกจากฝัก ดาบนั้นทำจากเงินเนื้อดีเยี่ยมน้ำหนักเบาสลักลายนกนางแอ่นสวยงามนิ้วเรียวแตะที่ดาบ มีเรียบเนียนสื่อถึงความปราณีตของช่างตีดาบมันช่างเป็นงานที่ปราณีตและงดงามที่สุดเลยก็ว่าได้ เธอมองฝักดาบไม้อย่างประหลาดใจเพราะความยาวของดาบและฝักดาบไม่เท่ากันโดยที่ฝักดาบยาวกว่าตัวดาบ เด็กสาวจับฝักดาบส่วนที่ยาวเกินมาก็พบว่ามันเป็นเพียงกระดาษสีดำที่พันหลอกไว้เท่านั้น ซากุระคลี่กระดาษออกอย่างเบามือมันเป็นตัวอักษรสีขาวเธอรีบเก็บดาบเข้าคัมภีร์และซ่อนแผ่นกระดาษไว้กับตัวเพราะเธอเชื่อว่ามันต้องเป็นข้อความของพ่อที่ส่งถึงเธอแน่
ในตอนนี้ซากุระได้เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดแขนยาวสีขาวแล้วสวมเสื้อกั๊กสีดำทับอีกทีแล้วใส่เลคกิ้งสีดำรองเท้าบู๊ทโดยที่ไม่ลืม สวมหมวกฟักทองสีดำและผ้าพันคอสีดำ พอเด็กสาวเดินออกนอกห้องก็พบว่ามีใครบางคนปิดตาของตนอยู่"ทายสิใครเอ่ย"
ซากุระจำเสียงนี้ได้"เลิกเล่นเถอะค่ะ พี่ฮิคาริ พี่โคฮารุ"
พอมือหนาเปิดออก ซากุระหันมาประจันหน้ากับสองหนุ่มที่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้อง ฮิคารุและโคฮารุนั้นเป็นฝาแฝดอายุมากกว่าเธอถึงสามปี ทั้งคู่ร่างสูงโปร่งมีผมสีชมพูเข้มอมน้ำตาลผิวขาว แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือแฝดคนน้องโคฮารุมีตาสองสีคือขวาสีน้ำตาลสุกใส ซ้ายสีฟ้า เทียบกับฮิคารุแฝดคนพี่นั้นที่มีตาสีน้ำตาลสุกใสทั้งสองข้าง ในตอนนี้ทั้งคู่ทำงานเป็นดีไซด์เนอร์ควบคู่กับพ่อค้าผ้าไปในตัว
เด็กสาวทัก"ไม่เจอกันนานนะค่ะ สบายใจไหม"
"ก็สบายดีจ้ะ"แฝดพี่ตอบ
แฝดคนน้องเข้ามาบีบไหล่พลางขอร้อง"พี่มีเรื่องจะให้เราช่วยหน่อยน่ะนะ"
ซากุระเอียงคอถามทั้งรอยยิ้ม"อะไรเหรอค่ะ ถ้าหนูช่วยได้ก็จะช่วยค่ะ"
"เยี่ยม ตามเราสองคนมาเลย"สองแฝดพูดจบก็ลากน้องสาวผู้น่ารักเข้าไปอีกห้องทันที
ทางด้านกลุ่มโคโนฮะ
ตอนนี้พวกเขากำลังนั่งรอไกด์ที่จะนำทัวร์แคว้นรอแล้วรออีกก็ยังไม่มา
"นี่ เจ้านั่นชักจะเหมือนครูคาคาชิแฮะ สายโด้งขนาดนี้"นารูโตะโวย
"นารูโตะ เราเป็นแขกนะครับ เขาอาจจะมีธุระก็ได้"ซาอิปลอบ
ไม่นาน
สองหนุ่มฝาแฝดก็เข้าแล้วทักทายด้วยรอยยิ้ม"สวัสดีทุกคน"
แฝดพี่พูดก่อน"ฉันชื่อฮิคารุ และนี่น้องชายฉันโคฮารุ ต้องขอโทษด้วยที่มาสาย พอดีพวกเรากำลังจะนำตุ๊กตาของพวกเราไปประกวดน่ะนะ"
"ตุ๊กตา"ฮินาตะเลิกคิ้วสงสัย
โคฮารุยิ้ม"ใช่ครับ"
ว่าแล้วเค้าก็จูงมือบางสิ่งให้เข้ามาด้วยเป็นซากุระในตอนนี้อยู่ในชุดโลลิต้าสั้นสีชมพูหวาน สวมถุงน่องสีขาวและรองเท้าส้นเตี้ยขัดเงาสีแดงสด ผมสีชมพูหวานยาวปะบ่านั้นถูกดัดเป็นลอนสลวยน่ารัก มีดอกกุหลาบสีชมพูดอกใหญ่ประดับ ดวงหน้างามนั้นแต่งแต้มด้วนเครื่องสำอางบางๆถ้าไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนพวกเขาก็คงคิดว่าเธอเป็นตุ๊กตาก็เป็นได้ ในตอนนี้เธอช่างเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบอย่างดี
"น่ารักไหมๆ"ฮิคารุร้องถาม
โคฮารุเอ่ยขึ้น"วันนี้พวกเราจะเข้าประกวดแฟชั้นน่ะนะแต่ไม่มีหุ่นเลยให้น้องสาวที่น่ารักมาเป็นตุ๊กตาให้ชั่วคราว"
"หนูอายจัง พี่โคฮารุ"
ฮิคารุปลอบ"ไม่เป็นไรหรอกน่า เราน่ะน่ารักออก วันนี้พวกพี่ต้องชนะแน่ๆ"
ฮิคารุดูนาฬิกาที่ข้อมือ"อีกเดี๋ยวก็จะแข่งแล้วไปเหอะ พวกเธอก็ไปดูด้วยสิ หลังเสร็จงานนี้พวกเราจะพาเที่ยว"
"ไปดิๆ"นารูโตะร้องอย่างยินดี
ซากุระนั้นทำได้แต่หลบตาและเอียงอายเท่านั้น...
...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น